keyword idea

วิธีหา Keyword ไอเดียจากคู่แข่ง นำมาปั้นจนติดอันดับ 1


สำหรับโพสนี้จะมาแชร์วิธีการโดยตรงที่ผมทำ โดยลำดับคร่าวๆ

เคยไหมครับที่อยากจะดันSEO ให้เว็บไซต์ แต่นึกไม่ออกว่าจะทำคีย์เวิร์ดอะไร?

– หาคู่แข่ง

– ดูความเป็นไปได้ในการปั้น

– วางแผน แล้วปั้นเลย

(โพสนี้เป็นการแชร์ประสบการณ์  โดยเนื้อหาอาจมีพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 เบื้องต้นผมทำการเซ็นเซอร์แล้ว  แต่หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ)

วิธีหาไอเดียจากคู่แข่ง อย่างแรกคือกำหนดคู่แข่งของเราก่อน เตรียมรายชื่อ URL ของคู่แข่งเราทั้งหมด

จากนั้น เครื่องมือที่ผมใช้เป็นเครื่องมือหลักในการหากิน(แอบบอก) นั่นก็คือ “ahref” ให้เพื่อนๆเลือกเว็บไซต์คู่แข่งมา 1 เว็บ จากนั้นใส่ลงไปในช่อง site explorer  และทำตามภาพครับ  (เครื่องมือนี้ไม่ฟรีนะครับ แต่ใช้ดีมาก)

เลือก Organic keywords คุณจะเห็น keyword ต่างๆที่เว็บไซต์นี้ติดอันดับ (ง่ายมากใช่ไหมครับ แค่ไม่กี่คลิก)   

จากนั้นสิ่งที่เราควรเลือก คือเช็คดู Traffic เพราะเราต้องการดูว่า Traffic ไหนที่ดึงคนเข้าเว็บไซต์ได้มาก ให้กดตรง Traffic ครับ

เท่านี้คุณก็จะพอดูออกแล้วครับว่าคีย์เวิร์ดไหนที่สามารถนำมาใช้ได้บ้าง 

จบแล้วครับวิธีการหาคีย์เวิร์ดในแบบฉบับของผม  

แต่ๆใจเย็นก่อนครับ เนื้อหายังไม่หมด !!

ใจความสำคัญไม่ได้อยู่ที่แค่ไอเดียแล้วจบ ไหนๆ ก็โพสทั้งที ให้ง่ายๆ แค่นี้ได้อย่างไร 

เราจะมาเข้าสู่วิธีการถัดไป นั่นก็คือการหาไอเดียและ “ดูความเป็นไปได้ในการปั้น”

สิ่งที่เพื่อนๆ จะต้องดู คือลักษณะของเว็บไซต์คู่แข่ง อยู่ในสเกลเดียวกับเราหรือไม่ ถ้าใช่ก็ลุย แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถอย

ผมยกตัวอย่างจากคีย์เวิร์ด “ขายคอนโด” นี่คือคีย์เวิร์ดที่แข็งมาก เว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1 ในคีย์เวิร์ดนี้คือ “ DDproperty ” 

จะเห็นว่าเมื่อกดเข้าไป หน้าที่ปรากฎนั้นไม่ใช่บทความ แต่เป็นหน้าที่เป็น Marketplace

ดั้งนั้นหากคุณเป็น SEO สาย Content จะทำบทความไปสู้  ยังไงก็สู้เขาไม่ได้ครับ(ทำใจไว้ก่อนเลย)

สมมติว่าถ้าหากคุณต้องการจะแข่งในคีย์เวิร์ดนี้  คุณก็ต้องทำเว็บไซต์ให้เป็น Marketplace ให้ได้ระดับเดียวกัน หรือเหนือกว่า

ดังนั้นในขั้นตอนนี้ลองประเมินดูครับว่าคีย์เวิร์ดไหนที่เว็บไซต์เราสู้ได้

ทีนี้ผมจะพาไปดูตัวอย่างจริงในสายปั้น SEO ด้วย Content ดีกว่าครับ 

นี้คือหนึ่งในคีย์เวิร์ดที่ผมเลือก คือคำว่า “ขายxxxxxx” มีการค้นหาอยู่ที่ 390 ครั้ง/เดือน  

(ซึ่งเวลาเราทำ  เราต้องList ไว้หลายๆคีย์เวิร์ดนะครับ)

จากนั้นผมก็จะเข้าไปดูหน้าของคู่แข่งที่ติดอันดับ1 ว่าเป็นอย่างไร  

เมื่อได้ดูเว็บไซต์คู่แข่ง

สิ่งที่ผมวิเคราะห์ได้คือ

  1. คีย์เวิร์ดติดหน้าที่เป็นบทความ
  2.  คำที่ใช้ในหน้านี้ มี 500 คำ
  3. ดูโครงสร้างทั้งหมดของเว็บไซต์

ถ้ารู้สึกว่ายาก ก็ให้เลื่อนมาดูอันดับ 2 ต่อนะครับ  แต่สำหรับเคสนี้ อันดับ 1 ผมมองว่าสู้ได้ (ต้องเซ็นเซอร์นะครับ)

จากกรณีนี้ โจทย์ Content ที่เราต้องสร้างเพื่อสู้กับอันดับ 1 คือ

  1. สามารถสู้กลับด้วยหน้าบทความ
  2. คำที่เราใช้ต้องเท่ากับ หรือไม่ต่ำกว่า 500 คำ
  3. ต้องสร้างเนื้อหา ให้ดึงดูดที่สุด ต้องทำให้คนอยู่ในหน้านี้นานๆ

บทความที่ผมทำมาสู้นั้น ผมใช้คำในบทความอยู่ที่ 500 คำ  คือเท่ากันกับคู่แข่ง

และผมเพิ่มในส่วนของ รูปภาพ และ คลิปวีดีโอ เพื่อให้Contentนั้นน่าสนใจ

และสิ่งที่ทำให้ USER ที่เข้ามาอยู่กับWebsite นานๆ นั่นคือการสร้างบทความอื่นๆ  เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านบทความต่อไปได้ง่ายขึ้น (ยิ่งอยู่นานหรือคลิกไปหน้าอื่น ยิ่งดี)

นอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของทั้ง โครงสร้างเว็บไซต์ และ Internal text ต่างๆที่ตั้งใจใส่

จากภาพ:  สีน้ำเงินคือของคู่แข่ง  สีเขียวคือของผมเอง

ใน ahref ยังไม่ได้อัพเดท สีเขียวจึงอยู่อันดับ 2  แต่ปัจจุบันติดอันดับ 1 เรียบร้อย

เมื่อทำเสร็จแล้วผมก็รอเวลาให้ได้ผลลัพธ์ตามธรรมชาติ(สังเกตุว่าผมไม่ได้ใช้ Backlink ในการช่วยดันเลย)

 โดยบทความนี้ใช้เวลารอไต่อันดับ 5 เดือน จนตอนนี้อยู่ในอันดับ 1 

นี่เป็นหนึ่งวิธีการที่สาย Content สามารถทำได้

จะเห็นว่า เราสามารถที่จะใช้คอนเทนต์ในการทำ SEO ได้ หากคุณวิเคราะห์คู่แข่งแล้ว และวางแผนไว้อย่างดี การทำ SEO Content นั้นจะไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ 🙂 

สำหรับใครที่ต้องการเรียนรู้วิธีการตรวจสอบบทความให้ถูกหลัก SEO หรือวิธีการสร้างทีม 

และสิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือ ทำอย่างไรหากคุณมีคีย์เวิร์ดทำเงินที่ต้องการทำอันดับ (ในขณะที่คู่แข่งสูงการเขียนบทความเป็นแค่องประกอบหนึ่งเท่านั้น) 

ผมมี Workshop ที่ชื่อว่า Blueprint SEO (รับจำนวนจำกัดต่อรอบ) สนใจดูรายละเอียด


Similar Posts