แชร์ประสบการณ์ คอนเทนต์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
บทความนี้จะแชร์ถึงประสบการณ์ว่าด้วยเรื่องของการยิงโฆษณาเฟสบุ๊คด้วยคอนเทนต์ หลายครั้งเวลาเรายิงโฆษณากับเฟสบุ๊ค คำถามคือทำอย่างไรให้โฆษณาของเรามีการแชร์และกดไลน์มากๆแถมยังได้ค่าโฆษณาที่ถูกอีกตังหาก โดยในบทความนี้ได้นำการทดลองจากการยิงโฆษณาบนเฟสบุ๊ครูปแบบ การมีส่วนร่วม(Engagement) ซึ่งเป็นวิธีการเริ่มต้นสำหรับคนที่ยังไม่มีข้อมูลกลุ่มลูกค้าเดิม สองตัวอย่างโฆษณาจะมีความแตกต่างกันที่กลุ่มโฆษณาและกลุ่ม Interest หรือเรียกอีกอย่างว่ากลุ่ม custom audience โดยโฆษณาทั้งสองเป็นโฆษณาจากเพจ Makesure ร่างเอกสารสัญญา ที่มีไว้เพื่อบริการร่างเอกสารสัญญาทางกฎหมายทุกประเภทโดยนักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ตัวอย่างที่ 1
โฆษณา “3 เหตุผลที่ธุรกิจควรทำสัญญา” เป็นโฆษณาแนว How to ที่บอกถึงเหตุผลข้อดีของการทำสัญญา โดยภาพของโฆษณาตั้งใจทำให้สื่อถึงกลุ่มคนวัยทำงาน เป้าหมายในการยิงโฆษณาเรามองว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเจ้าของกิจการและนักธุรกิจ ลองมาดูในส่วนของ Custom auduience กัน
ตำแหน่งที่ตั้ง ไทย
แน่นอนว่าเราต้องการกลุ่มลูกค้าในประเทศจึงเลือกในส่วนประเทศไทย
อายุ 22 – 45 ปี
เหตุผลเพราะบริการร่างสัญญากฎหมายออนไลน์น่าจะเหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงเลือกกลุ่มที่อยู่ระหว่าง 22 – 45 ปี
ภาษาไทย
จริงๆแล้วควรจะเลือกทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่เล่นเฟสบุ๊คหน้าต่างเป็นภาษาอังกฤษในประเทศไทยมีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
มาถึงในจุดสำคัญของการเริ่มต้นยิงโฆษณา ผู้เขียนขอเรียกว่าการกำหนด Interest (ตรงตัว)
ความสนใจ (Interest)
เมื่อเราต้องการกลุ่มเจ้าของกิจการและนักธุรกิจจึงได้ Interest คือ กิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก, ผู้ประกอบการ และ ฟรีแลนซ์ (ในส่วนของฟรีแลนซ์เรามองว่าน่าจะเหมาะกับกลุ่มที่ต้องทำสัญญาไว้ด้วย)
หลักในการทำ Interest นั้น ควรมี Interest อยู่แค่ 1 – 3 Intesrest ไม่ควรมากกว่านั้น เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายตามโฆษณาที่เราได้เลือกไว้
ระดับการศึกษา
เลือกจากคนที่จบระดับมหาวิทยาลัยขึ้นไป เพราะมีโอกาสที่จะทำงานฟรีแลนซ์ และเป็นระดับผู้จัดการหรือเจ้าของบริษัท ซึ่งในข้อมูลส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ (บางครั้งอาจจะคิดเยอะเกินไป)
สถานะความสัมพันธ์
ข้อมูลที่เราคิดกับความเป็นจริงอาจจะไม่ตรงกันก็ได้นะครับ เช่นในเรื่องของโสด และ กำลังคบหาดูใจ ที่ผมได้ยิงไป ความจริงแล้วโฆษณาอาจจะเหมาะกับกลุ่ม Family ก็ได้ ดังนั้นในข้อนี้จริงๆไม่ต้องใส่ก็ได้นะครับ
อุตสาหกรรม มองถึงผู้คนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจและการเงิน
ที่เหลือขอข้ามรายละเอียดปลีกย่อย เราลองมาดูในเรื่องของผลลัพธ์จากการตั้งกลุ่มเป้าหมายประเภทนี้กัน
เมื่อมองที่มุมบนซ้ายจะเห้นว่าเราจะได้กลุ่มเป้าหมายถึง 4 – 4.5 ล้านคนที่อยู่ในประเทศไทย ในกลุ่มของบุคคลที่เข้าถึงจะเห็่นว่าเป็นผู้ชายและผู้หญิงในสัดส่วนที่ใกล้กัน สถานะการคบหาและระดับการศึกษานั้นเลือกช่วงอายุที่ถือว่าค่อนข้างได้ประสิทธิภาพ (แต่ความจริงไม่จำเป็นต้องกำหนดรายละเอียดในส่วนนี้ก็ได้) ในส่วนของตำแหน่งงานได้การขาย 211% และด้านบริหารจัดการถึง 22%อยู่ในส่วนมากที่สุด ลองมาดูในส่วนของการกดถูกใจเพจกัน
อันดับที่ 1 และ 2 ตามมาติดๆคือ ตีแผ่ชีวิตมหาลัย และ JobThai เมื่อมองในส่วนนี้จริงๆแล้วไม่ค่อยจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเราสักเท่าไหร่ ทางที่ดีควรจะได้กลุ่มกดถูกใจเพจให้ตรงหรือใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายของเราก็จะดี ก่อนที่ไปดูผลลัพธ์ เราลองมาดูตัวอย่างที่ 2 กัน
ตัวอย่างที่ 2
โฆษณา “7 สิ่งสำคัญที่ฟรีแลนซ์ต้องเขียนในใบสัญญาก่อนโดนโกง” เป็นคอนเทนต์ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายฟรีแลนซ์เพียงกลุ่มเดียว เราลองมาดูในส่วน Custom auduience กัน
ประเทศ ไทย เน้นกลุ่มคนที่อยู่ภายในประเทศ
อายุ 22 – 35 มองว่ากลุ่มฟรีแลนซ์ที่สนใจคอนเทนต์จำกัดให้อยู่ในกลุ่มของคนที่พึ่งจบใหม่
เพศ กำหนดให้อยู่ในกลุ่มทั้งชายและหญิง
ภาษา รอบนี้มีการปรับให้เข้ากับกลุ่มคนที่เล่นเฟสบุ๊คภาษาหลักๆ
เราลองมาดูในส่วนของ Interest กัน ครั้งนี้ผมเลือกกลุ่มคนที่สนใจเรื่อง “ฟรีแลนซ์” อย่างเดียว ใช้ Interest ตัวเดียวโต้งๆ (ความสนใจที่ตกหล่นด้านล่างคือ ฟรีแลนซ์ นะครับ ) จากนั้นมาดูในส่วนของประชากรกัน
ในส่วนของข้อมูล Auduience ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมาก เรามาดูการถูกใจเพจของกลุ่มนี้กัน
เพจส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มฟรีแลนซ์ชอบติดตามกัน ถือว่าค่อนข้างตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ ตอนนี้ถึงเวลามาดูผลลัพธ์
ผลลัพธ์จากทั้งสองตัวอย่าง
ผลลัพธ์ทั้งสองใช้เวลาในการยิงโฆษณาไม่ต่างกันมากอยู่ที่ประมาณ 1 อาทิตย์ และใช้งบประมาณที่วันละ 50 บาทเท่านั้น เราลองมาดูผลลัพธ์ของทั้งสองกัน
ตัวอย่างที่ 1
ตัวอย่างที่ 2
การกดถูกใจ
ตัวอย่างที่ 1 มีการกดถูกใจถึง 1.7 พันไลน์ ส่วนตัวอย่างที่ 2 มีการกดถูกใจเพียงแค่ 376 ไลน์ ถือว่าตัวอย่างที่ 1 ชนะในเรื่องของการกดถูกใจ
คนเข้าดูและมีส่วนร่วม
ตัวอย่างที่ 2 ชนะในส่วนนี้เพราะการมีส่วนร่วมที่มีถึง 5,029 นั้นมีมากกว่า ตัวอย่างที่ 1
การแชร์
ตัวอย่างที่ 1 มีการแชร์อยู่เพียง 12 ครั้ง ในณะที่ตัวอย่างที่ 2 แชร์ถึง 329 ครั้ง จึงให้ตัวอย่างที่ 2 เป็นฝ่ายชนะ
เราลองมาดูค่าโฆษณาในการมีส่วนร่วมของทั้งสองตัวอย่างกัน
ต้นทุุนต่อผลลัพธ์
ตัวอย่างที่ 1
ตัวอย่างที่ 2
เห็นว่าต้นทุนต่อผลลัพธ์ในโฆษณากลุ่มฟรีแลนซ์นั้นมีค่าโฆษณาที่น้อยกว่ามากถึง 2 เท่าตัว
สรุป เหตุผลที่ทำให้โฆษณาที่ดีค่าโฆษณาน้อย
จากการทดลองเราจึงสรุปได้ว่า
- คอนเทนต์ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
- การแชร์มีผลต่อค่าโฆษณามากกว่าไลน์ เพราะถือว่ามีส่วนร่วมที่มากกว่า
สุดท้าย ในบทความนี้เป็นการพูดถึงเพียงแค่การยิงโฆษณาแบบเริ่มต้นที่กำหนด Custom auduience เท่านั้น ยังมีวิธีการยิงโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และทำให้ถึงกลุ่มลูกค้าที่ตรงตามเป้าหมายได้ดีกว่าไม่ว่าจะเป็นการ Retargeting การ Lookalike audience หรือที่ตอนนี้เป็นที่นิยมและได้ประสิทธิภาพอย่างมากอย่างการยิงผ่าน Facebook Pixel เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างมากเช่นกัน แล้วพบกันในบทความต่อๆไปครับ